เมนูนำทาง
โตโยต้า คัมรี่ รหัส XV (Wide-body)โฉมนี้ ขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์ 3 ขนาด คือ
มีตัวถัง 2 แบบ คือ Sedan 4 ประตู , Station Wagon 4 ประตู
มี 2 ระบบเกียร์ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และ ธรรมดา 5 สปีดดังเดิม
ในประเทศไทย โฉมนี้เป็นโฉมแรกที่โด่งดังในไทย เปิดตัวในประเทศไทย พ.ศ. 2536 แต่ยังเป็นโฉมที่ยังไม่ผลิตในไทย (รถนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย) ดังนั้น ในวงการรถไทย จึงเรียกว่า "โฉมแรกประกอบนอก" ต่อมาใน พ.ศ. 2538 มีการปรับโฉมเปลี่ยนไฟท้าย ทำให้ในรุ่นท้ายๆ ของโฉมนี้ วงการรถไทย เรียกว่า "โฉมท้ายหงส์"
ACV10 ในประเทศไทย แบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 3 รุ่นดังนี้
ในช่วงปีสุดท้ายก่อนปรับโฉม มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โฉมนี้ ขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 2.2 ลิตร 5S-FE (130 แรงม้า) กับ 3.0 ลิตร 1MZ-FE (194 แรงม้า)
มีตัวถัง 2 แบบ คือ Sedan 4 ประตู และ Station Wagon 4 ประตู
มี 2 ระบบเกียร์ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และ ธรรมดา 5 สปีด เช่นเดียวกับโฉมเดิม
โฉมนี้ รุ่นปีแรกๆกับรุ่นปีท้ายๆ มีความแตกต่างกันในรายละเอียดพอควร พ่อค้ารถในไทยและวงการรถไทยจึงใช้ชื่อเรียกโฉมที่ต่างกัน โดยในรุ่นแรกๆ เรียกว่า "โฉมไฟท้ายไม้บรรทัด" (ไฟยาว) ส่วนรุ่นท้ายๆ จะเรียก "โฉมท้ายย้อย" (ไฟย้อย) แต่การขายก็ล่าช้ากว่าต่างประเทศ โดยขายระหว่าง พ.ศ. 2542-2545
ในประเทศไทย โฉมนี้ ในช่วงแรกคัมรี่ยังต้องนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย แต่ใน พ.ศ. 2543 ก็ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย
ในประเทศไทยแบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 2 รุ่นดังนี้
ข้อแตกต่างของคัมรี่รุ่นไฟท้ายไม้บรรทัด ระหว่างรุ่นที่ผลิตในประเทศออสเตรเลีย กับรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย คือ คัมรี่ออสเตรเลียที่ขายในช่วงแรก มีเฉพาะรุ่น 2.2SE.G เท่านั้น แต่จะเป็น 2.2SE.G ที่ภายในสีเทา ไม่มีลายไม้ ล้ออัลลอยก้านตรง เบาะปรับมือ ในขณะที่ 2.2SE.G รุ่นประเทศไทย จะได้ภายในสีครีม ตกแต่งลายไม้ ล้ออัลลอยก้านเฉียง เบาะปรับไฟฟ้า
ทุกรุ่นมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อกและถุงลมนิภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และหลังการปรับโฉมเป็นรุ่นไฟท้ายย้อย ได้เพิ่มไฟตัดหมอกในทุกรุ่น และตัดรุ่น 2.2SE.G เกียร์ธรรมดาออกจากสายการผลิต
โฉมนี้ ขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์ 5 ขนาด คือ 2.0 ลิตร 1AZ-FE (144 แรงม้า) , 2.4 ลิตร 2AZ-FE (152 แรงม้า) , 3.0 ลิตร 1MZ-FE (194 แรงม้า) , 3.0 ลิตร 1MZ-FE (210 แรงม้า) และ 3.3 ลิตร 3MZ-FE (225 แรงม้า)
มีตัวถัง 1 แบบ คือ Sedan 4 ประตู
มี 3 ระบบเกียร์ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด , อัตโนมัติ 5 สปีด และธรรมดา 5 สปีด แต่ในประเทศไทย เกียร์ธรรมดาในคัมรี่ถูกยกเลิก
ในประเทศไทย คัมรี่ขายในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2545-2549 แบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 4 รุ่นดังนี้
โฉมนี้ พ่อค้ารถในไทย และวงการรถไทย นิยมเรียกว่า "โฉมตาเหยี่ยว" เริ่มการขายในไทย พ.ศ. 2545-2549 ล่าช้ากว่าต่างประเทศเช่นเคย
โฉมนี้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2549เริ่มผลิตเมื่อรุ่นปี พ.ศ. 2550 และโตโยต้ามีแผนจะผลิตคัมรี่โฉมนี้ไป 5 รุ่นปีดังเดิม โดยมีแผนจะผลิตโฉมนี้ไปจนถึงรุ่นปี พ.ศ. 2554 โฉมนี้ จัดเป็นรถขนาดกลาง (Mid-Size Car)
โฉมนี้ ขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์ 3 แบบ คือ 2.0 ลิตร 1AZ-FE (147 แรงม้า) 2.4 ลิตร 2AZ-FE (167 แรงม้า) และ 3.5 ลิตร 2GR-FE (272 แรงม้า)มาในภายหลัง
มีตัวถัง 1 แบบ คือ Sedan 4 ประตู
มี 5 ระบบเกียร์ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด (ในรุ่น 2.0 ลิตร) ,อัตโนมัติ 5 สปีด , อัตโนมัติ 6 สปีด , ธรรมดา 5 สปีด และธรรมดา 6 สปีด แต่ในประเทศไทย เกียร์ธรรมดาในคัมรี่ถูกยกเลิก
ในประเทศไทยแบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 5 รุ่นดังนี้
นอกจากนั้นยังนำรุ่น 2.0G และ 2.4V 6CD/MP3 มาผลิตเป็นกรณีพิเศษจำนวนจำกัดในรุ่น Extremo โดยตกแต่งดังนี้
จากนั้นในปี พ.ศ. 2552 ได้มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ขึ้นโดย
โฉมนี้เป็นโฉมแรกที่คัมรี่เจเนอเรชันใหม่ถูกนำเข้าตลาดไทยในปีเดียวกับต่างประเทศ (เริ่มขาย พ.ศ. 2549-2554)
โฉมนี้ เริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2554 โดยได้เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมในงานมอเตอร์โชว์ พ.ศ. 2555 มีตัวถังแบบเดียวคือตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู
มีเครื่องยนต์ 3 รุ่นคือ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รหัส 1AZ-FE ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า, เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า และเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ไฮบริด รหัส 2AR-FXE ให้กำลังสูงสุด 205 แรงม้า แต่ในต่างประเทศจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกคือ 2.5 ลิตร, 2.5 ลิตร Hybrid และ 3.5 ลิตร รหัส 2GR-FE V6
โตโยต้า คัมรี่ ได้ยกเลิกรุ่น 2.0E สำหรับขายรถ Fleet, Limousine และรุ่น 3.5Q และในขณะนั้นมีรุ่นย่อย 5 รุ่น ได้แก่
ด้านความปลอดภัย คัมรี่ได้ทดสอบการชนได้ Good ใน IIHS, และได้รางวัล 5 ดาวใน ANCAP อีกด้วย
หลังจากโตโยต้า คัมรี่ ได้เปิดตัวไปในปี 2555 ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการตัดออปชั่นหลายอย่างออกไป ทำให้โตโยต้า คัมรี่ ได้มีการปรับโฉมใหม่โดยเพิ่มระบบความปลอดภัยให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยถุงลมนิรภัย 7 ใบ (รุ่น 2.5G ขึ้นไป) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลม และถุงลมเข่า, ถุงลมนิรภัย 4 ใบ (ในรุ่น 2.0G และ EXTREMO) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ,ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake-force Distribution) และ ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist), ระบบช่วยเหลือการทรงตัวเสถียรภาพ VSC (Vehicle Stability Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control, ระบบเตือนมุมอับสายตา BSM (Blind Spot Monitor), ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Taffic Alert), กล้องมองหลัง, ไฟฉุกเฉินกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal), Parking Sensor ด้านหน้า 2 จุด ด้านท้าย 4 จุด, ระบบปรับไฟสูงปรับอัตโนมัติ AHB (Auto High Beam) (เฉพาะ HYBRID Premium), ระบบป้องกันรถออกนอกช่องทาง LDW (Lane Departure Warning) (เฉพาะ HYBRID Premium), ระบบครูสคอนโทรลแปรผันรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) (เฉพาะ HYBRID Premium) และ ระบบเสริมความปลอดภัยก่อนการชน เรดาร์จับสิ่งกีดขวางหน้ารถพร้อมกับรัดเข็มขัดนิรภัยให้แน่นขึ้นและเบรกอัตโนมัติ PCS (Pre-Crash Safety) (เฉพาะ HYBRID Premium) ส่วนภายนอก ได้มีการเปลี่ยนการออกแบบกระจังหน้าใหม่ตามแบบ Keen Look และปรับเปลี่ยนการออกแบบไฟท้ายใหม่
ส่วนสำหรับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร โตโยต้า คัมรี่ 2015 ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์รหัส 6AR-FSE VVT-iW พร้อมหัวฉีดใหม่ D-4S ขนาดกระบอกสูบ 1,998 ซีซี กำลัง 167 แรงม้า แรงบิด 199 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 6 จังหวะ
ในรุ่นปรับโฉม มีรุ่นย่อยทั้งหมด 6 รุ่น ประกอบด้วย
ในปี 2559 โตโยต้า คัมรี่ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ใหม่ตามรุ่นย่อย ดังนี้
ส่วนราคามีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
โตโยต้า คัมรี่ เอสปอร์ท ได้นำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยโดยนำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโตโยต้า คัมรี่ เอสปอร์ท ได้มีรูปร่างเดียวกับกับโฉมอเมริกา และใช้คอนเซปต์ในการโฆษณาว่า "Life is thrilling"
ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ลายใหม่ไฟหน้า LED Dual Projector แบบ Hybridไฟเลี้ยว แยกจากไฟหน้า แบบ Hybridภายในเปลี่ยนจากลายไม้สีดำเป็น ลายไม้คาร์บอน (Carbon Wood)วันที่ 11 กรกฎาคม 2560
เปลี่ยนภายใน สีดำตัดครีม เป็น สีดำเปลี่ยน ตะเข็บด้ายบนแดชบอร์ด จากสีดำ เป็น สีน้ำตาล Koganeเปลี่ยน ลายไม้แบบพิเศษ เป็นลายไม้คาร์บอน (Carbon Wood)เปลี่ยน พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน เป็น 3 ก้านแบบ EXTREMOล้ออัลลอย 17 นิ้ว พ่น Hi-Gloss (เฉพาะรุ่น Hybrid)วันที่ 19 สิงหาคม 2560
ส่วนราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคารุ่น 2.5 HV มีการเปลี่ยนราคา ส่วนรุ่นอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ภาพรวม | |
---|---|
เรียกอีกชื่อ | ไดฮัทสุ อัลติส[1] |
เริ่มผลิตเมื่อ | 2560–ปัจจุบัน[2] |
รุ่นปี | 2561–ปัจจุบัน |
แหล่งผลิต |
|
ผู้ออกแบบ | Ian Cartabiano (Concept leader, Exterior SE/XSE, US-Specification: 2014, 2015)[3] Shin Okahara (regular exterior: 2014) Ken Kubota (Project chief designer) Toshimitsu Araki (interior design: 2014) Chinatsu Kato (colors & trim: 2015-16) |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
รูปแบบตัวถัง | รถเก๋ง 4 ประตู |
แพลตฟอร์ม | TNGA: TNGA-K |
ระบบส่งกำลัง | |
เครื่องยนต์ |
|
ระบบเกียร์ |
|
โตโยต้า คัมรี่ โฉมนี้ได้เปิดตัวครั้งแรกในงานดีทรอยต์ออโต้โชว์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2560[5] เริ่มขายเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560[6][7] และต่อมาเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 หลังจากนั้นก็จะเริ่มจะยอยเปิดตัวในประเทศไทย ออสเตรเลีย และประเทศอื่น ๆ ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2560 หรือต้นปี พ.ศ. 2561 โดยโฉมนี้จะเป็นโฉมที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก (รุ่นโกลบอล)[8]
โตโยต้า คัมรี่ โฉมนี้ได้สร้างภายใต้แพลทฟอร์ม Toyota New Global Architecture ซึ่งได้ใช้ร่วมกันกับโตโยต้า พริอุสไฮบริดแฮทช์แบ็กรุ่นที่ 5 และโตโยต้า ซี-เอชอาร์ที่เป็นเอสยูวีครอสโอเวอร์[5]
โดยแต่ละรุ่นจะมีกระจังหน้าที่แตกต่างกัน โดยรุ่นธรรมดาจะมีกระจังหน้าอีกแบบหนึ่งและรุ่นไฮบริดก็จะมีกระจังหน้าอีกแบบหนึ่ง[9]
รุ่นย่อยของโตโยต้า คัมรี่โฉมนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบไปด้วยรุ่น L, LE, SE, XLE และ XSE โดยที่รุ่น LE, SE และ XLE เป็นคัมรี่เวอร์ชันไฮบริด[9] และรุ่น XSE และ XLE จะเป็นคัมรี่ที่ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6
โตโยต้า คัมรี่ในประเทศไทยงานเปิดตัวมีขึ้นวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี การสื่อสารทางการตลาดของ Camry ใหม มีขึ้นภายใต้แนวคิด “The All-New Camry…Soul Striking Luxury”[10]
ทางเลือกเครื่องยนต์จะประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ธรรมดา 2.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังได้ 205 แรงม้า และเมื่อใช้ร่วมกับท่อ 4 รู จะให้กำลังสูงสุดได้ 208 แรงม้า และเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า และเครื่องยนต์ตัวท็อป 3.5 ลิตร วี6 ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า[11]
ชิ้นส่วนประกอบที่ใช้ร่วมกันกับโตโยต้าคัมรี่รุ่นก่อน ๆ มีเพียงแค่สัญลักษณ์โตโยต้าบนกระจังหน้าและฝากระโปรงหลัง [11]
โตโยต้า คัมรี่โฉมนี้จะเป็นรถยนต์โตโยต้ารุ่นแรกที่ได้ใช้ระบบเอนโฟนเทนเมนต์ Entune 3.0 ที่สร้างบนพื้นฐานของ Linux และเป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สสามารถให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถสร้างโปรแกรมที่สามารถใช้ร่วมกันกับระบบปฏิบัติการนี้ได้ [12]
ตัวเลือกระบบเกียร์ประกอบไปด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ (CVT) สำหรับรุ่นไฮบริด และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบกับเครื่องยนต์วี6[13]
โตโยต้า คัมรี่โฉมนี้จะมีระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ประกอบไปด้วย ระบบเรดาร์จับวัตถุ/คนด้านหน้า เรดาร์ตรวจจับความเร็วรถด้านหน้า ระบบเตือนการขับออกนอกเลน ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุตัดผ่านขณะถอยหลัง และระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง[14]
เมนูนำทาง
โตโยต้า คัมรี่ รหัส XV (Wide-body)ใกล้เคียง
โตโยต้า โตโยต้า ไฮลักซ์ โตโยต้า วีออส โตโยต้า โคโรลล่า โตโยต้า คัมรี่ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โตโยต้า พริอุส โตโยต้า ลีกคัพ 2562 โตโยต้า ลีกคัพ 2561 โตโยต้า คราวน์แหล่งที่มา
WikiPedia: โตโยต้า คัมรี่ http://www.donlen.com/buildstart-toyota.html http://www.headlightmag.com/2018-all-new-toyota-ca... http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=... http://www.motortrend.com/news/2018-toyota-camry-d... http://toyotanews.pressroom.toyota.com/releases/20... http://newsroom.toyota.co.jp/en/detail/17680157 http://www.caronline.net/ArticleDetail.aspx?Articl... http://www.consumerreports.org/sedans/2018-toyota-... http://www.toyota.co.th/th/models/camry/camry_2.4 http://www.toyota.co.th/th/models/camry/camry_3.5